สร้างพื้นที่ความสุขในใจ ด้วยพลังจาก “ศิลปะด้านใน” โดย สสส.

สร้างพื้นที่ความสุขในใจ ด้วยพลังจาก “ศิลปะด้านใน”

                    เพราะวัยเด็ก คือ ช่วงเวลาแห่งการเติบโตที่สำคัญที่สุด การมอบโอกาสให้เด็ก ๆ ได้เติบโตอย่างแข็งแรงทั้งในด้านร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ คือการสร้างอนาคตที่สดใสให้กับพวกเขา และสำหรับพวกเราทุกคน

                    “ศิลปะด้านใน” จึงไม่ใช่แค่เครื่องมือสร้างความงาม แต่ คือ พลังที่ช่วยเยียวยา เติมเต็ม และพัฒนาเด็ก ๆ ให้สมบูรณ์ทั้งภายในและภายนอก ผ่านกิจกรรมที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง เช่น การเล่านิทาน การวาดภาพ หรือการจัดแต่งดอกไม้ เพื่อเด็ก ๆได้สัมผัสความสงบ ความเบิกบาน และจินตนาการไร้ขีดจำกัด ขณะเดียวกันผู้ปกครองเองก็จะได้เรียนรู้วิธีส่งเสริมพัฒนาการและความผูกพันในครอบครัว

                    แต่ทุกวันนี้ พบว่า ตัวเลขเด็กไทยกำลังเผชิญกับป่วยซึมเศร้าที่เกิดจากความเครียดสะสมและปัญหาสุขภาพจิตพุ่งสูงจนน่าตกใจ ถึง 2,200 คนต่อประชากรแสนคน เท่ากับเป็นสัญญาณเตือนว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องหันมาดูแลจิตใจของเด็ก ๆ อย่างจริงจัง

                    ซึ่งที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. – ภาคีเครือข่าย ได้ร่วมกันจัดกิจกรรม “ดูแลวัยเด็กด้วยศิลปะด้านใน” ในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2568 โดยเน้นการใช้ศิลปะและการเล่นอิสระเป็นเครื่องมือในการฟื้นฟูสุขภาพกาย ใจและจิตวิญญาณ ด้วย “การเล่นอิสระ” แบบจินตนาการ จึงเปรียบเสมือนประตูที่เปิดให้เด็ก ๆได้ค้นพบตัวเอง  ผ่านการระบายสี ฟังนิทาน การวาดรูปด้วยสีขี้ผึ้ง การจัดดอกไม้ตามใจชอบ เพื่อให้เด็กได้ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ และลดความกดดันจากสิ่งรอบตัว

                    น.ส.ณัฐยา บุญภักดี ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว สสส. บอกด้วยความปลื้มกับบรรยากาศแห่งกิจกรรมวันนั้นว่า  ศิลปะด้านในช่วยพัฒนาเด็กทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ เด็กจะได้สัมผัสความสุขและความงามในสิ่งง่าย ๆ ซึ่งนอกจากจะทำให้ใจสงบ ยังเป็นเหมือนการวางรากฐานให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแรงจากภายใน เปรียบเสมือนการสร้างบ้านที่มีฐานรากมั่นคง พร้อมเผชิญพายุลมในอนาคต ให้เขามีรากแก้วที่แข็งแรง

                    ขณะเดียวกัน ผู้ปกครองเองก็มีโอกาสเรียนรู้และสัมผัสสุนทรียะของศิลปะไปพร้อม ๆ กัน โซนวงกลมยามเช้าซึ่งเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ละลายพฤติกรรม และเริ่มต้นวันใหม่ด้วยบทกลอนและเสียงเพลงที่อบอุ่นและยังได้รับองค์ความรู้ในการใช้ศิลปะช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูก รวมถึงสร้างความผูกพันในครอบครัว

                    เมื่อครอบครัวแข็งแรง เด็กก็จะเติบโตในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นและมั่นคง โอกาสในวันข้างหน้าเขาจะเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาวะ หรือ ที่สสส. เราเรียกว่า  “Longlife Health” สุขภาพดีตลอดชีวิต  การที่ผู้ปกครองได้ร่วมกิจกรรมกับลูก ๆ จะช่วยเปิดประสบการณ์ใหม่ในการสื่อสารและเข้าใจกันมากขึ้น

                    นอกจากนี้ การนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ยังช่วยเพิ่มศักยภาพในการเลี้ยงดูลูกในแบบที่เหมาะสมตามวัย

                    กิจกรรมศิลปะด้านในไม่ได้ยากหรือไกลตัวเลย คุณเยาวลักษณ์ อรรคบุตร เครือข่ายพลังศิลปะด้านใน (Power Inner Art) แนะนำว่า การใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ทำสวน ปลูกดอกไม้ หรือทำอาหาร ก็ถือเป็นศิลปะด้านในได้เหมือนกัน การที่พ่อแม่ชวนลูกทำกิจกรรมจะช่วยให้เด็กได้สัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริง

                    โดยเฉพาะการที่ได้สัมผัสกับความอ่อนโยนของแสงแดด และสายลม ในบางช่วงเวลา  นอกจากจะสร้างความสุข ยังทำให้เด็กรู้สึกถึงการมีตัวตนและภูมิใจในสิ่งที่เขาได้ทำ สิ่งสำคัญ คือ หากต้องการให้เขาได้เติบโตในสภาพแวดล้อมดังกล่าวและซึมซับอย่างมีความหมายและมั่นคง คือ การทำแบบสม่ำเสมอ เนื่องจาก กิจกรรม “ดูแลวัยเด็กด้วยศิลปะด้านใน” ไม่ได้มุ่งแค่สร้างสุขภาวะในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ยังเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับอนาคต เมื่อเด็กและครอบครัวเรียนรู้ที่จะสร้างความสุขจากภายใน พวกเขาจะสามารถเผชิญหน้ากับความท้าทายต่าง ๆ ได้อย่างมั่นใจและสร้างสรรค์

                    ตัวอย่างโครงการหรือกิจกรรมในต่างประเทศที่คล้ายกับ “ดูแลวัยเด็กด้วยศิลปะด้านใน” ซึ่งเน้นพัฒนาสุขภาวะเด็กผ่านศิลปะและกระบวนการสร้างสรรค์ มีหลายโครงการที่โดดเด่น เช่น โครงการบำบัดด้วยศิลปะ (Art Therapy) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ถูกนำมาใช้ในโรงเรียนและศูนย์สุขภาพจิตเด็กทั่วประเทศ โดยเน้นการวาดภาพ การระบายสี และการปั้น เพื่อช่วยเด็กที่มีความเครียด ปัญหาครอบครัว หรือภาวะซึมเศร้าได้แสดงความรู้สึกผ่าน ศิลปะ Art Therapy for Children  พบว่า กิจกรรมนี้ช่วยลดความเครียด และพัฒนาความสามารถทางอารมณ์ของเด็กอย่างมีนัยสำคัญ

                    Child Creativity Lab รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา  กับ โครงการที่ส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยความคิดสร้างสรรค์ผ่านการใช้วัสดุรีไซเคิลในการสร้างงานศิลปะ ซึ่งเด็กจะได้เรียนรู้การแก้ปัญหา การทำงานเป็นทีม และความยืดหยุ่นในความคิด พบว่า ช่วยส่งเสริมทักษะการคิดสร้างสรรค์และความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21

                    The Art Room สหราชอาณาจักร ได้จัดตั้งในโรงเรียนรัฐหลายแห่งในอังกฤษ เน้นการช่วยเหลือเด็กที่มีความเครียดทางอารมณ์ หรือ ปัญหาการเรียนรู้ผ่านการทำงานศิลปะทั้งระบายสี วาดภาพ และงานฝีมือ The Oxford University ประเมินลัว พบว่า เด็กที่เข้าร่วมมีความมั่นใจในตัวเองเพิ่มขึ้น และปรับตัวในสังคมได้ดี

                    Creative Arts for Health  ในแคนาดา กับ โครงการในโรงพยาบาลเด็กหลายแห่ง เช่น SickKids Hospital  ในโตรอนโต ใช้ศิลปะ การแสดง และดนตรีบำบัด เพื่อช่วยเหลือเด็กที่ป่วยหนักหรือมีความเครียดในระหว่างการรักษา ช่วยลดความวิตกกังวลของเด็ก และเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวได้อย่างดี

                    สสส.มั่นใจว่า กิจกรรมที่คุณกำลังสนับสนุนมีศักยภาพในการเป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยผลักดันการพัฒนาสุขภาวะองค์รวมของเด็กไทย และเมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็จะกลายเป็นพลังขับเคลื่อนที่สร้างสังคมที่มีความสุขและสมดุลได้ในอนาคต ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ “ศิลปะด้านใน”

เรื่องโดย ภินันท์ชญา สมคำ Team Content www.thaihealth.or.th

ข้อมูลจาก งาน “ดูแลวัยเด็กด้วยศิลปะด้านใน”

Categories: ข่าวสารกิจกรรม