โครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำและกลไกการนำนโยบายเพื่อการสร้างเสริมสุขภาวะ
กลุ่มแรงงานนอกระบบสู่การปฏิบัติระดับจังหวัด
หลักการ เหตุผล
การดูแลคุ้มครอง ส่งเสริมและพัฒนาแรงงานนอกระบบอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานภาครัฐร่วมกับองค์กรภาคประชาสังคม ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการแรงงานนอกระบบ พ.ศ. 2555 – 2559 แต่ผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี พ.ศ. 2559 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของแผนยุทธศาสตร์ฯพบว่าในจำนวนผู้มีงานทำทั้งสิ้น 38.3 ล้านคน เป็นแรงงานนอกระบบ 21.4 ล้านคน หรือร้อยละ 55.9โดยส่วนใหญ่ มีการศึกษาระดับประถมศึกษาและต่ำกว่า ร้อยละ 62.5มีปัญหาเรื่องค่าตอบแทน ร้อยละ 51.5และมีปัญหาจากการบาดเจ็บและอุบัติเหตุจากการทำงานของแรงงานนอกระบบ มีจำนวน 3.5 ล้านคน หรือร้อยละ 16.5
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้สนับสนุนการดำเนินงานการสร้างเสริมสุขภาวะแรงงานนอกระบบโดยผ่านแผนงานพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 จนถึงปัจจุบัน โดยยึดหลักการมีส่วนร่วม และหลักการออตาวาห์ชาร์เตอร์ ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนานโยบาย การพัฒนาวิชาการและองค์ความรู้ และการพัฒนาศักยภาพและเสริมความเข้มแข็งของกลไกภาคประชาชน ควบคู่กับการพัฒนาระบบบริการสุขภาพและการสร้างสิ่งแวดล้อมให้เอื้อต่อการสร้างเสริมสุขภาวะให้กับกลุ่มแรงงานนอกระบบ ในภาคการเกษตร ภาคการผลิต และภาคบริการ
ผลงานที่สำคัญที่สามารถนำมาเป็นต้นทุนในการส่งต่อและขยายผลการดำเนินงานสร้างเสริมสุขภาวะและการพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบประกอบด้วย
- กฎหมายและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเสริมสุขภาวะและการมีคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับกลุ่มแรงงานนอกระบบ จำนวน 6 นโยบาย
- มีข้อมูลและองค์ความรู้ที่สามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้ และพัฒนาให้เป็นองค์ความรู้หรือนวัตกรรมเพื่อการขยายและพัฒนานโยบายใน 4 หมวดหลัก ได้แก่ 1) กลุ่มสิทธิแรงงาน 2) กลุ่มสุขภาพ ความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน 3) กลุ่มการพัฒนา/สร้างหลักประกันทางสังคม และ
4) กลุ่มพัฒนาผู้นำเพื่อมีศักยภาพพื้นฐานและความรู้ทักษะเฉพาะเพื่อการบริหารจัดการและการจัดกระบวนการเรียนรู้ให้กับกลุ่มแรงงานนอกระบบ รวมถึงวางแผน/การประสาน - ได้กรอบคิดและชุดความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาผู้นำแรงงานนอกระบบที่จะนำมาใช้ในกระบวนการดำเนินงานโครงการฯ ร่วมกัน ตามแผนภูมิภาพด้านล่าง
พ.ร.บ.คุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน พ.ศ. 2553, ประกันสังคมสำหรับแรงงานนอกระบบ มาตรา 40 ภายใต้ พ.ร.บ.ประกันสังคม (ฉบับปรับปรุง) พ.ศ. 2556 และ พ.ศ. 2558, พ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554, แผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการแรงงานนอกระบบ พ.ศ. 2555 – 2559, การส่งเสริมป้องกันโรคจากการประกอบอาชีพสำหรับกลุ่มแรงงานนอกระบบ ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองเกษตรพันธสัญญา พ.ศ. ….
กระบวนการพัฒนาจะเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงตัวตนของผู้นำ ขยายไปสู่การเปลี่ยนแปลงระดับบุคคล ครอบครัว องค์กร สังคม จนถึงระดับโครงสร้างอำนาจ โดยผ่านการรับรู้และยอมรับตัวตน ว่าเป็น “แรงงานนอกระบบ” และมีศักยภาพในการเป็นผู้นำที่สามารถนำขบวนการทางความคิด ของกลุ่ม ชุมชนและพลังทางสังคม จนไปสู่การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ระดับตนเองจนถึงโครงสร้างอำนาจ ที่เป็นเงื่อนไขสำคัญของความเหลื่อมล้ำและความไม่เป็นธรรมทางสังคม
- มีผู้นำที่มีศักยภาพจำนวน 424 คน จากพื้นที่ดำเนินโครงการ 23 จังหวัดโดยมีผู้นำการเปลี่ยนแปลง
52 คน คิดเป็นร้อยละ 12.3 ในจำนวนดังกล่าวมีผู้นำ 26 คน เข้าร่วมและมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนงาน
เชิงบูรณาการในทุกเนื้องานหลักที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงาน ทั้งในระดับพื้นที่ จังหวัด และการขับเคลื่อนนโยบายผู้นำดังกล่าวยังมีบทบาทต่อเนื่องในการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานรัฐในระดับจังหวัดและระดับกระทรวง และผู้นำที่มีภาวะการนำจำนวน 115 คน คิดเป็นร้อยละ 27.1 มีบทบาทขับเคลื่อนงานระดับพื้นที่และเป็นกลไกสนับสนุนหรือทีมทำงานขับเคลื่อนในระดับจังหวัด/ตำบล - ศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบจังหวัดมีจำนวน 16 ศูนย์ เป็นกลไกสำคัญในการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับจังหวัด และการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ฯสู่การปฏิบัติ แต่ด้วยข้อจำกัดด้านการกระจายตัวของแรงงานนอกระบบ และความหลากหลายของบริบทพื้นที่ อาชีพ ทำให้ศูนย์ประสานงานฯไม่สามารถขยายฐานการขับเคลื่อนงานระดับพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง จึงได้มีการพัฒนา“หน่วยบริการชุมชนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงาน”เป็นกลไกหนึ่งที่เหมาะสมในการเป็นเครือข่ายทำงานระดับตำบล เพื่อลดเงื่อนไข และเพิ่มการเข้าถึงข้อมูล ข่าวสาร สิทธิบริการและทรัพยากรของแรงงานนอกระบบสามารถแสดงความสัมพันธ์และบทบาทหน้าที่ศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบจังหวัดและหน่วยบริการชุมชนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงาน
เป้าหมาย พัฒนาศักยภาพผู้นำให้มีความรู้และทักษะในการนำนโยบายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาวะแรงงานนอกระบบสู่การปฏิบัติ
วัตถุประสงค์
- พัฒนาศักยภาพผู้นำให้มีความรู้และทักษะในการนำนโยบายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาวะแรงงาน
นอกระบบสู่การปฏิบัติ - พัฒนาศักยภาพศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบจังหวัดและหน่วยบริการชุมชนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานให้เป็นกลไกดำเนินงานเพื่อการเข้าถึงสิทธิและบริการของแรงงานนอกระบบ
- ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานและภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาศักยภาพผู้นำและกลไกภาคประชาชนเพื่อให้แรงงานนอกระบบเข้าถึงสิทธิและบริการ
- สนับสนุนกระบวนการรณรงค์และสื่อสารเพื่อสร้างการเรียนรู้ให้กับแรงงานนอกระบบในระดับกลุ่ม/เครือข่าย
กลุ่มเป้าหมายและพื้นที่เป้าหมายการดำเนินงานโครงการ
- ผู้นำที่ผ่านกระบวนการพัฒนาศักยภาพจำนวน 360 คน
- พื้นที่เป้าหมายโครงการ จำนวน 16 จังหวัดได้แก่
พื้นที่ | รายชื่อจังหวัด |
1. ภาคเหนือตอนบน | 1. เชียงใหม่ 2. เชียงราย 3. พะเยา 4. น่าน 5. ลำพูน |
2. ภาคเหนือตอนล่าง | 1.เพชรบูรณ์ 2. อุตรดิตถ์ |
3. ภาคกลาง | 1.ราชบุรี 2. นครปฐม 3. สมุทรปราการ |
4. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ | 1.ขอนแก่น 2. อุดรธานี |
5. ภาคใต้ | 1. สงขลา 2. ตรัง 3. สุราษฎร์ธานี |
6. กรุงเทพฯ | เขตพื้นที่ดำเนินงานกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ในพื้นที่เขต 2,9 และ 10 |